Statement of the problems and Hypothesis
- fcukingmontage
- 17 พ.ย. 2561
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 7 ก.ย. 2565
COUPLE: คิมทงฮยอน x อีกวังฮยอน HASTAG: #fcukstories NOTES: ตามรีเควสคุณลี่ผิง @LipingNotLibing
ทีปกร AKA คิมทงฮยอน
อังกฤษ AKA อีกวังฮยอน
ผมมาถึงก่อนเวลาครู่หนึ่ง
ระยะจากที่พักอาศัยถึงม่านรูดนี้ไม่ได้ห่างกันมากนัก ใช้เวลาขับรถเพียงสิบห้านาทีกับอีกเศษๆจากการคาดเดา ผมยังอยู่บนรถเพียงแต่เปิดกระจกแล้วจุดบุหรี่สูบ สายตามองออกไปนอกกระจกรถผ่านไอควันบางๆ
ควันที่ลอยอยู่ก็ไม่ได้ต่างจากชีวิตผมเท่าไรนัก
ลอยอยู่แล้วสุดท้ายก็จางหายไป ไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มั่นคง ไหวและลอยไปตามลม ลมที่หอบเอาตัวผมและควันนี่มาอยู่ถึงอีกซีกโลกหนึ่ง ในที่ที่มีเผ่าพันธุ์เดียวกับผมน้อยเพียงหยิบมือเดียว ยิ่งคนที่จะพูดภาษาเดียวกันได้ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
หรือผมลองได้ไปเดินแถวไอเฟลหรือฌองเซลิเซ่อาจจะคิดอีกแบบ
หลังจากจบมหาวิทยาลัย การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางญาติโกโหติกาทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนั้นน่าอับอายและยากเกินทำความเข้าใจได้ อย่างน้อยก็สำหรับครอบครัวและเครือญาติของผม โชคดีที่บ้านของเราไม่ได้ขัดสนกับคำขอของผมที่อยากหลบไปไหนก็ได้ไกลๆ เรามีเงินมากพอจะใช้ข้ออ้างว่ามาค้นหาความฝันในต่างแดน
แต่สิ่งที่ผมได้เจอจริงๆกลับเป็นเด็กหนุ่มในแอพลิเคชั่นนัดเย็ดนี่
กดเข้าไปดูทันทีที่เห็นชื่อ Angkrit ของเขา รู้แน่ว่าเป็นคนไทย เพราะชื่อเขาจะให้แปลเป็น English ก็คงประหลาดพิลึก แต่พอมาคิดอีกทีก็อาจจะเป็นคนอินเดียที่ใช้ชื่อภาษาสันสกฤตอะไรสักอย่างก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ เขาเป็นคนไทยจริงๆ ผมคุยกับเขาและพาตัวเองมาถึงที่นี่พร้อมเงินสดอีกนิดหน่อย
เขาแนะนำตัวเองว่าชื่ออังกฤษเป็นคนไทยและคืนนี้ว่างที่จะทำงานให้ผม ทีแรกผมไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากไม่มีอะไรจะทำ งานก็ไม่มี เที่ยวก็ไม่อยากไป แต่พอเห็นเขาในรูปไพรเวทเล็กๆน้อยๆก็เลยตกลงใจมาใช้ช่วงเวลาค่ำคืนที่นี่
กับคนแปลกๆที่ไม่ใช่แค่แปลกหน้า
แปลกจริงๆที่ระหว่างคุยเรื่องการตกลงทางธุรกิจ อังกฤษถามคำถามประหลาดๆจำพวก คุณคิดยังไงกับประธานาธิปดีทรัมป์ กฎหมายคู่ชีวิตจะช่วยเหลือกลุ่มความหลากหลายทางเพศได้จริงหรือไม่ และจบด้วย สถาบันกษัตริย์ที่แข็งแกร่งสะท้อนความล้าหลังของประชาธิปไตยในประเทศ ‘ของคุณ’ อย่างไร
ผมตอบมันไปมั่วๆ เพราะไม่รู้ห่าอะไรเลยกับคำถามที่เขาถามมา เขาคิดอยู่นานและลบข้อความไปมา เห็นได้จากสัญลักษณ์กำลังพิมพ์ที่ขึ้นๆหายๆ แต่สุดท้ายเขาก็ตกลง
นั่นไง เจ้าของคำถามนั้นกำลังเดินเข้ามาในโรงแรมแล้ว
TEEPAKORN
ผมอยู่บนรถคันเดียวในนี้
สูบบุหรี่อยู่
ANGKRIT
เห็นละครับ
คนตัวบางในโค้ทหนาสีน้ำตาลเข้มนั่นเงยหน้าจากโทรศัพท์มาเจอผมพอดี ผมโบกมือให้เขาเป็นสัญลักษณ์ก่อนจะเปิดประตูออกไป เขาไม่พูดอะไรแล้วเดินตัดหน้าผมไป
“ไปรอหน้าห้อง 09 เลยครับ เดี๋ยวจัดการเรื่องห้องให้” เขาพูดไล่หลังมา
ผมทำตามอย่างว่าง่าย ไม่นานเขาก็มาพร้อมคีย์การ์ด ผมและเขาเข้าห้องไปพร้อมกัน
“คุณเดินมาหรอ”
“ใช่ครับ ที่ทำงานผมไม่ไกลจากที่นี่ เลิกงานแล้วก็มาเลย”
“เลิกงานเพื่อมาทำงานเลยนะครับ”
“ชีวิตผมมันไม่ง่ายหรอกคุณ”
เขาพูดในขณะที่มือคว้าเอาน้ำมันหอมระเหย เทียนหอมกระปุกเล็ก ไฟแช็ก บุหรีเมนทอลสลิมและขนนกสังเคราะห์ออกมาวาง
“ผมไม่ได้จะหลอกชาร์จเงินคุณนะ แต่ผมจะถามว่าอยากนวดน้ำมันก่อนไหม”
“แล้วเพิ่มเงินหรือเปล่า”
“ไม่มากหรอก อีก 8 ยูโร”
“ได้นะ ผมไม่มีปัญหา”
“งั้นไปถอดโค้ทออกแล้วนอนที่เตียงเลยครับ เดี๋ยวอย่างอื่นผมปลดให้”
ผมเดินไปนอนที่เตียง แอบปลดกระดุมเชิ้ตออกก่อนสองเม็ดเพราะหัวนมที่กำลังตั้งแข็งเริ่มถูกับเสื้อจนน่ารำคาญ เขาจุดเทียนหอมแล้วเดินมาหาผมพร้อมกับขวดน้ำมันและขนนก
“ใช้อุปกรณ์ด้วยหรอครับ”
เขาค่อยๆปลดเสื้อผมออกด้วยนิ้ว
“คุณแพ้หรอ”
“ไม่หรอก ผมแค่แปลกใจเฉยๆ”
ไม่นานเสื้อผ้าส่วนนอกของผมก็ลงไปข้างเตียงหมดเหลือแต่กางเกงชั้นใน เขาเดินไปพับแล้วเทินไว้ที่หัวเตียง น้ำมันหอมระเหยหยดลงบนตัวผมเป็นจุดๆ นิ้วและส้นมือของเขาเริ่มลงน้ำหนักที่บ่าไหล่และช่วงอกของผม
“ผมเคยอ่านมาว่าการกระตุ้นร่างกายก่อนเริ่ม ทำให้คู่นอนผ่อนคลายและมีความสุขมากกว่าเสียบให้มันจบๆหน่ะ ผมก็เลยลองดู มันก็ดีนะ ลูกค้าหลายคนชอบ”
“และก็ทำให้เรียกเงินได้เยอะขึ้นด้วยใช่ไหม”
เขาเริ่มนวดลงไปถึงหน้าท้องและข่วงขาอ่อน เอาเข้าจริงผมรู้สึกเขินมากกว่าไปซื้อเด็กพริตตี้สปาที่เมืองไทยอีก พวกนั้นแค่มาถึงแล้วก็โขกๆ เสียบๆ น้ำแตกแล้วก็จบกัน แต่การให้อีกคนนวดน้ำมันจนรู้สึกได้ถึงการสัมผัสร่างกายทุกส่วนนี่มัน…
“ก็ถูก แต่ผมไม่ได้หิวเงินขนาดนั้นหรอก”
“ก็แหงหล่ะ ดูคำถามคุณถามผมในแชทสิ”
“ผมก็แค่กรองคนหน่ะ ดูคำตอบก็รู้แล้วว่าคนดีหรือคนบ้า แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจตอบกันหรอกครับ ปิดหนีกันหมด”
“ผมเป็นคนดีสินะ”
“ผมลืมบอก คุณหลับตาลงนะครับ หายใจเข้าออกลึกๆแล้วไม่ต้องเกร็งนะครับ”
“ผมพูดมากไปหรอ”
“ก็นิดนึงครับ ผมไม่ค่อยชอบพูดนักหรอก”
การนวดช่วงขาทำให้เจ้าหนูข้างในเริ่มแข็งตึงแน่นทั้งที่ยังไม่โดนสัมผัสเลยแม้แต่น้อย และเมื่อขนนกเริ่มแตะ ลาก วน บนผิวของผมมันทำให้สติผมแทบแตกซ่าน นี่สินะ ถึงบอกว่าให้หลับตาทำสมาธิและอย่าพูดมาก
“รู้สึกดีไหมครับ”
“ดีเลยครับ”
“อยากให้ผม dirty talk มั้ยครับ”
“คุณอยากมั้ยละครับ”
“ผมเฉยๆนะ ไม่ได้เงี่ยนขึ้นหรอก มันดูน่ากลัวมากกว่า”
“เอาแค่ระดับที่คุณพูดก็พอครับ”
เขาปลดกางเกงในผมออก ไม่ต้องลืมตาดูก็รู้สึกได้มามันดีดผึงออกมาแข็งโด่อยู่ ยิ่งน่าอายเข้าไปใหญ่
“เดี๋ยวผมจะเริ่มแล้วนะครับ”
“ครับ”
เขาปลดเสื้อผ้าตัวเองออก หยดน้ำมันลงตัวเล็กน้อย อ้อ ผมแอบลืมตาดูหน่ะ ร่างกายบางของเขาไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อมากนัก แต่ก็สูงส่วมส่วนในแบบผอมๆ แต่เครื่องเคราอะไรก็พอตัวอยู่ที่จะทำอาชีพแบบนี้
เขาทับตัวเองลงบนตัวผมแล้วเริ่มที่ซอกคอ
“ลืมตาก็ได้นะครับ ไม่ต้องแอบมองแล้วครับ”
“ปกติคุณทำงานอะไร”
“ร้านอาหารครับและก็เขียนบทความแบบนิรนามให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนิดๆหน่อยๆ”
“ภาษาฝรั่งเศสหรอ”
“จารึกขอมมั้งครับ ถามเป็นนักข่าวบันเทิงเลยนะครับ”
“ดูคุณไม่น่ามาทำงานแบบนี้เลย”
“ต้องเป็นคนแบบไหนหรอครับถึงทำงานแบบนี้ได้”
“ไม่รู้สิครับ ผมไม่เคยเจอคนอย่างคุณมาก่อน”
“เดี๋ยวขอไม่ตอบแปบนึงนะครับ จะใช้ปากแล้ว”
“555555 ครับ”
เขาไม่ตอบในคำถามของผมอยู่ครู่ใหญ่ เขากำลังใช้ปากให้กับผมอยู่ ความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นเริ่มทำให้ผมอยู่ไม่สุขไปเอง นี่อาจจะเป็นความจำเป็นของการนวดก่อนเริ่ม เพราะกล้ามเนื้อคุณจะเกร็งอย่างถึงที่สุด
เขาสาละวนอยู่ตรงนั้น ดูดเข้าดูดออก วนลามไปถึงพวงไข่แล้วก็เอามันเข้าปากไปทั้งหมด
“พะพอแล้วครับ”
“ไม่ชอบหรอครับ” เขาผละปากขึ้นมาตอบ
“คุณทำได้ดีครับ แต่ผมไม่ชอบที่มันเงียบๆเลย”
“คุณก็ครางสิครับ”
“ไม่ใช่ หมายถึงผมอยากคุยกับคุณ”
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง คงจะรู้สึกแปลกใจว่าใครมันจะยอมเสียเงินหลักพันเพื่อแค่มาหาคนคุย คือผมก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก แค่ในตอนนี้ผมอยากคุยกับเขามากกว่า ลีลาไม่กล้าบอกกลัวจะคิดว่ารสปากรสมือของเขามันไม่ดี แต่โอกาสที่จะได้เจอคน (แปลกๆ) อย่างเขามันยากนะคุณ
“เอาจริงๆ ผมไม่รู้จะคุยอะไร ผมแค่มาทำงาน”
“งั้นก็คุยไปทำงานไปก็ได้ ไม่ต้องใช้ปากแล้ว เดี๋ยวผมขึ้นให้”
“ก็ได้ครับ”
“นอนหงายนะครับ จะมิชชั่นนารี”
“เป็นคริสต์หรอครับ” เขาหยอก
“พุทธก็เอาได้ครับ ท่านี้”
เป็นผมเองที่เริ่มเปิดฉากบดริมฝีปากลงไปก่อนทั้งที่พึ่งบอกไปหยกๆว่าผมอยากคุยกับเขา แต่ผมยังไม่ได้บอกซักคำว่าอยากคุยด้วยคำพูดอย่างเดียว อวัจนภาษาก็สำคัญนะครับ ผมก็อ่านมาเหมือนกัน
ผมแอบแวะหยิบเจลหล่อลื่นทานิ้วแล้วเสียบเปิดทางของเขาให้ยืดตัวออกก่อนที่จะเดินเกมต่อ ปากของผมเลื่อนลงไปอยู่ที่ช่วงอก สายตาของเขาสบกับผมต่อเนื่อง
“ขอโทษนะ ผมแค่เบื่อที่คุณไม่ให้ผมทำอะไรเลย”
“ผมสิต้องขอโทษ ในฐานะลูกจ้าง”
ผมรูดนิ้วออกก่อนจะลุกขึ้นไปสวมถุงยาง “ทำไมคุณมาทำงานแบบนี้ได้หละครับ”
“แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้หล่ะครับ”
“ก็ไม่รู้สิ คุณพูดฝรั่งเศสได้ขนาดเขียนบทความได้ ทำไมถึงทำงานร้านอาหาร ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้” ผมชโลมเจลเพิ่มอีกนิดก่อนจะเริ่มดันเจ้าหนูของผมเข้าไปในตัวเขา
“ผมแค่อยากลองหน่ะ เพราะผมไม่รู้คำตอบว่าชีวิตผมต้องการอะไร แค่เรื่องเอาผมยังไม่รู้เลยว่าชอบแบบไหน” ผมเริ่มควบเอวทั้งที่ยังฟังเสียงอ่อนของเขาไปด้วย
“เหตุผลง่ายดีนะคุณ”
“ผมไม่รู้จริงๆนี่ คุณรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าเป็นรุก หรือกระทั่งคุณชอบผู้ชาย”
“ไม่เคยคิดหรอก”
“คุณเคยเอากับผู้หญิงไหม? หรือเคยโดนเอาไหม?”
“ไม่นะ ผมไม่เคย”
“ผมสงสัยไงว่าตัวเองชอบแบบไหนกันแน่ จะรอมีแฟนครบทุกแบบมันก็ยุ่งยาก เป็นกะหรี่นี่แหละง่ายที่สุด”
“แล้วคุณเขียนบทความอะไรในหนังสือพิมพ์”
“บทความเบ็ดเตล็ดหยุมหยิม เขาแค่อยากได้มาเติมให้มันเต็มหน้าเฉยๆ ไม่มีใครอ่านรู้เรื่องหรอก จิตวิเคราะห์ลากอง การวิเคราะห์ระบบทุนนิยมของเดอเลิซ วิพากษ์ระบบราชานิยมผสมเผด็จการในคราบประชาธิปไตยของประเทศเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ประเทศหนึ่ง คืออยากเขียนอะไรก็เขียน คนทำงานกรรมาชีพเขาไม่อ่านหรอกคุณ”
เขาแสดงอารมณ์ออกอยู่บ้างในจังหวะที่ผมกดร่างกายของผมเข้าไป ร่างกายของเขาก็ตอบสนองได้ดี แต่ผมแทบไม่มีสมาธิอยู่กับการเอาครั้งนี้เลย สิ่งที่เขาพูด เขาตอบคำถามของผม มันทำให้ผมรู้สึกดีมากที่ได้ตอบสนองความเสียวในร่างกายและความซ่านในสมองไปพร้อมกัน
“เดี๋ยวนะ คุณเรียนอะไรมา”
“เรียนอักษรสมัยอยู่เมืองไทย”
“แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร”
“สามปีได้แล้วมะ– อื้อ”
ผมเริ่มเร่งจังหวะกระแทกเอวเร็วขึ้น การพูดคุยมันทำให้ผมรู้สึกดีก็จริง แต่ถ้าผมเสียช่วงเวลาที่จะกอยโกยความสุขในช่วงไคลแมกซ์นี้ไป ผมคิดว่าผมจะพลาดช่วงเวลาแห่ง Jouissance ดังที่ฌากส์ ลากองได้เคยกล่าวไว้ไปอย่างน่าเสียดาย
“คุณอยากแตกมั้ย” ผมถาม
“อ่ะอาา”
“ไปพร้อมกันนะ เดี๋ยวผมรอช่วย”
ผมถุยน้ำลายเล็กน้อยลงไปที่จู๋ของเขาที่แข็งตั้งนาบหน้าท้อง แล้วสละมือหนึ่งที่เท้าฟูกเตียงอยู่ขึ้นมัน รูดมันขึ้นลงสุดความยาว เขากัดฟันกลั้นครางเล็กๆ น่าเอ็นดูจัง
“ปล่อยเสียงออกมาเลยก็ได้ครับ คุณอังกฤษ กัดไว้แบบนั้นเดี๋ยวฟันเสียหมด”
“อะอื้อ ฮึก”
“ชอบมั้ยครับ”
“ชอ บคะ ครับ”
“ใกล้หรือยังครับ”
“ครับ”
“พร้อมกันนะครับ”
เพียงชั่วอึดใจ ของเหลวหลั่งจากกายของผมด้านในและอังกฤษหลั่งออกด้านนอก ผมถอนตัวเองออกมาแล้วรูดถุงยางทิ้งถังขยะก่อนคว้ากระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดคร่าวๆ แล้วกระโดดขึ้นเตียง
“แล้วคุณมาเรียนต่อหรอ ดูคุณเป็นคนฉลาดทีเดียว”
“ไม่ใช่หรอก ผมไม่ได้มาทำอะไรทั้งนั้น”
ผมฉงนจนตั้งพลิกตัวกลับไปรอเขาพูดต่อ
“ผมถูกส่งมาจากเมืองไทย ผมอยู่ที่นั่นไม่ได้”
“คุณโดนแก๊งมาเฟียตามล่าหรอ”
“ใช่มั้ง มาเฟียแก๊งใหญ่เลยหล่ะ” อังกฤษหลบตาผม “คุณไม่อาบน้ำหรอ”
“ไม่อ่ะ รออาบพร้อมคุณ” ผมแกล้งกอดเอาหน้าซุกอกเขา
“เราไม่ใช่ผัวเมียกันซักหน่อย คุณอาบก่อนก็ได้”
“ถ้าผมขอให้นี่เป็นหนึ่งในบริการหล่ะครับ”
“จ่ายเพิ่มนะครับ”
“แน่นอน”
อังกฤษลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำผมเดินตามเข้าไปแล้วเปิดฝักบัว เขาหยิบสบู่ฟรีในห้องมาล้างร่างกายตัวเอง ผมรับสบู่จากมือเขา
“ทำไมคุณอยากรู้เรื่องของผมนัก”
“เพราะผมไม่รู้เรื่องตัวเองมั้ง เลยอยากรู้เรื่องของคนอื่น เผื่อจะหามันเจอ”
“มันที่ว่าคือตัวเองใช่ไหม”
“อืม ผมไม่รู้เรื่องตัวเองนักหรอก เลยรู้สึกดีที่คุณดูรู้จักตัวเองมากๆ”
“ผมเคยเป็นอย่างคุณนะ ตอนที่มาถึงที่นี่ใหม่ๆ”
ผมหยิบสบู่ช่วยถูตัวหลังให้เขา น้ำจากฝักบัวฝอยบางยังปรอยต่อเนื่อง
“ผมไม่รู้ว่าถูกส่งมาทำไม ผมทำอะไรผิด บรรทัดฐานความถูกต้องในหัวผมเหมือนถูกจับเขย่า ความเชื่อ ตัวตนอะไรทุกอย่างมันเหมือนโดนทุบแตกไปหมด”
“เศร้าเลย”
“ไม่หรอก มันปกติมากที่ใครเจอแบบนั้นก็เป็นทั้งนั้น โชคดีที่พี่ๆที่มาพร้อมกับผม เขาช่วยให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้น ที่เหลือผมก็ต้องค้นหามันใหม่ ผมเลยใช้วิธีเดิมที่ทำนี่นั่นมาทำที่นี่ คือลองตั้งคำถามแล้วหาคำตอบ”
“ที่คุณบอกผมว่าที่มาเป็นกะหรี่เพราะไม่รู้ว่าชอบแบบไหนนั่นนะหรอ”
“ก็ใช่ แต่ผมทำอีกหลายอย่างเพื่อหาคำตอบว่าผมเป็นใครและสิ่งที่ผมควรจะทำคืออะไร ผมแค่ทำมัน ไม่ใช่เลือกอยู่เฉยๆแล้วคำตอบมันจะลอยมาจากฟ้า ผมไม่เชื่ออะไรแบบนั้น”
“เหมือนโดนด่าเลยครับ”
ผมได้ยินเขาแค่นหัวเราะ
“แล้วพอยิ่งผมทำ ยิ่งผมเขียน มันทำให้ผมเข้าใจว่าผมผิดที่เกิดผิดที่ เหมือนผมกำลังเขียนเปเปอร์เรื่องชีวิตตัวเองหน่ะคุณ และผมก็ได้ผลการศึกษาว่าเพราะบ้านผมมันมีแต่คนเฮงซวย”
“ผมชื่นชมคุณจัง ผมทำอะไรแบบคุณไม่ได้หรอก จบมหาลัยมายังไม่รู้จะทำอะไรถึงได้หนีมานี่”
“การหาคำตอบทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็เริ่มจากการเดาทั้งนั้นแหละ เดาเสร็จแล้วลองไปทำดูว่ามันเป็นอย่างที่คุณเดาไหม ใช่ก็ดี ไม่ใช่ก็เลิก อย่างที่คุณเดาว่าตัวเองเป็นรุกไง แล้วก็แจ๊กพอต คุณเดาถูก ชีวิตมันแค่นี้แหละ”
“คุณจะบอกว่าจริงๆแล้วผมก็เดาเก่ง”
“ใช่ เดาเก่งที่เลือกผมในคืนนี้ด้วย ไม่ค่อยมีใครที่จะสนใจว่าผมจะแตกมั้ยหรอก”
โดยไม่รู้ตัว ผมโอบกอดเขาไว้จากข้างหลัง
“ขอบคุณนะ” อังกฤษว่าเสียงแผ่ว
“ไม่เป็นไร ขอบคุณเหมือนกันที่สอนผมทำวิจัยคืนนี้ ผมได้ D มาแหนะ”
“มิน่าหล่ะ”
เราสองคนออกจากห้องน้ำ เช็ดตัว สวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่มา จ่ายเงินกันตามจำนวนที่ตกลงไว้ อังกฤษเก็บอุปกรณ์ของเขาใส่เสื้อโค้ทตามเดิม เราไม่ได้มีบทสนทนาอะไรจากนั้นมากนักนอกเหนือจากการถามไถ่เรื่องวิธีกลับที่พัก อังกฤษขอตัวเดินกลับอพาร์ทเมนท์เอง ผมไม่ได้ขัดอะไร
เราสองคนออกจากห้องพร้อมกัน เขาฝากกุญแจไว้กับผมเมื่อรู้ว่าผมจะอยู่ทอดน่องแถวนี้อีกซักพัก ไม่มีการมองตาหวานซึ้ง อังกฤษกระชับโค้ทรีบเดินฝ่าอากาศหนาวแล้วหายไปในกลุ่มหมอก ผมจุดบุหรี่ดูด ตั้งใจพ่นควันหนักๆ ใกล้เช้าแล้ว ดาวประจำเมืองอยู่ข้างหน้าผมเมื่อมองขึ้นไป มันไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนที่เปลี่ยนสลับไปในทุกคืน แต่อย่างน้อยมันก็มีทิศทางการเดินที่แน่นอน
ผมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
FIN
ตามรีเควสคุณลี่ผิงค่ะ โจทย์ยากมากๆๆๆ “หัวข้อวิจัย” หายตัวไปคิดอยู่นานมากว่าจะเอายังไงดี แต่ก็ได้มาประมาณนี้ละค่ะ ไม่รู้คุณลี่ผิงจะลืมไปหรือยัง 5555555 ฝากดงพังเรื่องแรกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
Comments